หน้าฝนมาเยือนแล้ว เจ้าของบ้านหลายคนคงกังวลกับปัญหาน้ำรั่วซึมเข้าสู่ตัวบ้านอย่างแน่นอน โดยจุดที่น้ำรั่วซึมเข้าบ้านคงหนีไม่พ้นในส่วนของหลังคาหรือตัวผนังบ้านที่เผชิญสภาพอาการภายนอกนั่นเอง แต่จะมีจุดไหนบ้าง วันนี้  ต. ตรวจบ้านได้นำ 3 จุดเสี่ยงรั่วซึมที่ควรระวังเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนมาฝากเจ้าของบ้านทุกท่าน เพราะจุดเหล่านี้มักจะสร้างปัญหาในระยะยาวหากไม่ตรวจเช็คตำแหน่งรั่วซึมและรีบจัดการแก้ไขให้ถูกจุด

1. หลังคา  (Roof Tile) 

ท็อปลิสต์น้ำรั่วซึมคงหนีไม่พ้นในส่วนของหลังคาเพราะเป็นส่วนที่ครอบคลุมตัวบ้านเอาไว้ทั้งหมด เผชิญทุกสภาพอากาศภายนอก โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่หน้าฝน ปริมาณน้ำค่อนข้างมากจึงมีโอกาสเกิดปัญหาน้ำรั่วซึมเข้ามาในบ้านได้ ดังนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านจะต้องตรวจเช็คสภาพกระเบื้องหลังคาแตกร้าว บิ่นแตก หรือได้รับแรงกระทบกระเทือนกระทั่งทะลุเป็นรู อาจทำให้น้ำฝนรั่วซึม ปูนที่ใช้ยึดครอบกระเบื้องแตกหัก หรือซึมน้ำ อุปกรณ์หลังคาเสื่อมสภาพไปตามอายุการใช้งาน หรือเก็บงานรอยต่อเรียบร้อยหรือไม่ 

น้ำรั่วเข้าผ่านหลังคาไหลตามโครงสร้างไปหยดลงฝ้าเพดาน ซึ่งกว่าจะปรากฏคราบให้เห็นต้องใช้ระยะเวลาในการดูดซับนานผ่านมาหลายฝน ดังนั้นเจ้าของบ้านควรมั่นสังเกตฝ้าเพดานบ้านบ่อยๆ 

2. รอยต่อโครงสร้าง 

ปัญหาการรั่วซึมที่เกิดจากบริเวณรอยต่อโครงสร้างเป็นอีกจุดที่พบได้บ่อยเวลาฝนตก หากใครที่เป็นเจ้าของบ้านมือใหม่เวลาฝนตกให้สังเกตว่ามีรอยน้ำบริเวณมุมห้องหรือตามรอยต่อระหว่างผนังและคานบริเวณท้องพื้นหรือไม่ แต่ถ้าเป็นบ้านเก่าแล้วไม่มีประวัติการรั่วซึมก็อย่านิ่งนอนใจไปเพราะอาจเกิดการรั่วซึมขึ้นได้จากการแตกร้าว การเสื่อมสภาพของน้ำยากันซึม  โดยเฉพาะกับโครงสร้างพื้นสำเร็จซึ่งอาจเกิดการรั่วซึมระหว่างรอยต่อได้ง่าย

3.ผนังตามมุมวงกบประตู-หน้าต่าง

ผนังด้านนอกก็เป็นอีกจุดที่เผชิญสภาพอากาศต่าง ๆ ดังนั้นวัสดุผนังภายนอกย่อมมีเสื่อมสภาพ ทรุด หรือ เกิดรอยแตกร้าวเป็นธรรมดาแต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับคุณภาพวัสดุที่ใช้ โดยเฉพาะช่วงที่เป็นผนังขอบประตู-หน้าต่างซึ่งจะเป็นจุดที่สามารถเกิดการรั่วซึมได้ง่ายที่สุด เพราะเป็นรอยต่อระหว่างผนังกับวงกบ หากซิลิโคนหรือพียูที่ใช้อุดรอยต่อเสื่อมสภาพ เกิดรอยแตกร้าว เวลาฝนตกน้ำสามารถรั่วเข้ามาในบ้านคุณได้อย่างแน่นอน