ตารางโหลด คือ ตารางที่แสดงรายละเอียดต่างๆ ของโหลดภายในตู้ไฟฟ้า ซึ่งออกแบบโดยวิศวกรไฟฟ้า โดยออกแบบมาให้เหมาะสมกับปริมาณการใช้ไฟฟ้าภายในอาคารหรือบ้านหลังนั้นๆ รูปแบบของตารางโหลดจะแตกต่างกันไปตามการออกแบบของวิศวกรไฟฟ้า แต่จะมีองค์ประกอบหลักๆที่คล้ายกัน
1. Panel NO. : ชื่อของตู้ไฟ เพื่อระบุว่าตู้ไฟนี้คือตู้ไหน กรณีที่มีตู้ไฟหลายตู้
2. Main : บอกรายละเอียดของเมนเบรกเกอร์ โดยระบุชนิด ขั้ว และพิกัดกระแส
3. Capacity : ความจุของตู้ไฟฟ้า คือ จำนวนช่องที่สามารถใส่เบรกเกอร์ลงไปได้
4. Location : บอกสถานที่ที่ติดตั้งตู้ไฟนั้นๆ
5. Circuit NO. : หมายเลขวงจร ใช้เพื่อระบุว่าเบรกเกอร์ย่อยลูกนั้น อยู่วงจรลำดับเท่าไร
6. Description : รายละเอียดวงจร ใช้เพื่อบอกว่าเบรกเกอร์ลูกนั้น ควบคุมวงจรอะไร
7. Conductors : บอกจำนวน ชนิดและขนาดสายไฟ ทั้งสายไลน์ สายนิวทรัล และสายกราวน์
8. Circuit Breaker : บอกรายละเอียดเบรกเกอร์ย่อย โดยระบุชนิด ขั้ว และพิกัดกระแส
9. Conduit : บอกขนาดและชนิดของท่อร้อยสายไฟ
10. Connected load in VA : โหลดไฟฟ้าในแต่ละวงจร โดยบอกขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ในวงจรนั้นๆ ซึ่งคิดจากค่าสูงสุดที่เครื่องใช้ไฟฟ้าบริโภค
11. Total connected load : เป็นช่องรวมขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บริโภคภายในตู้ไฟฟ้านั้น
12. Total Demand load : เป็นช่องรวมขนาดของโหลดภายในตู้ไฟฟ้านั้น ที่คิดจากการใช้งานจริง ตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย (วสท.)
13. Main Conductor : สายป้อน คือสายไฟฟ้าที่อาจรับไฟมาจากมิเตอร์ หรือตู้ไฟหลัก โดยบอกจำนวน ขนาด และชนิดของสายไฟ
14. Raceway : บอกขนาดและชนิดของท่อร้อยสายไฟ
15. Connected to : บอกว่าสายไฟจากตู้ไฟนี้ ต่อไปยังตู้ไฟตู้ไหน กรณีมีตู้ไฟฟ้ามากกว่า 1 ตู้
การตรวจสอบเบรกเกอร์กันดูดของเครื่องทำน้ำอุ่น
หลักการเลือกขนาดสายไฟให้เหมาะสมกับขนาดของเบรกเกอร์
การตรวจวัดค่าความต้านทานหลักดิน
สวิตซ์ไฟและเต้ารับอาร์ก เกิดจากอะไร ??
ความแตกต่างระหว่างมิเตอร์ปกติกับมิเตอร์ TOU